4 มี.ค. 2551

เศรษฐกิจการพนัน

รังสิมันตุ์ กิ่งแก้ว 3/12/2546

ในทางเศรษฐศาสตร์มีสินค้าบางประเภท ที่นอกจากผู้บริโภคจะได้รับอรรถประโยชน์(Utility) จากการบริโภคสินค้านั้นแล้ว ผู้ที่ไม่ได้บริโภคสินค้าเหล่านั้น(หรือสังคม)จะได้รับผลกระทบด้วย หรือเรียกว่ามีผลกระทบภายนอก (Externality) โดยผลกระทบภายนอกอาจจะมีทั้งทางบวก คือทำให้อรรถประโยชน์สังคม (Social Utilities) สูงขึ้น หรือเรียกว่า “สินค้าที่มีผลดีต่อสังคม” (Merit Goods) ส่วนสินค้าที่มีผลทางลบ จะทำให้อรรถประโยชน์สังคม (Social Utilities) ต่ำลง หรือเรียกว่า “สินค้าที่มีภัยต่อสังคม” (Demerit Goods)โดยสินค้าที่มีภัยต่อสังคม หากปล่อยให้มีการผลิตอย่างเสรีจะมีการผลิตมากเกินไป ตรงกันข้ามกับสินค้าที่มีผลดีต่อสังคม ที่หากปล่อยให้มีการผลิตอย่างเสรีจะมีการผลิตน้อยเกินไป ดังนั้นสำหรับสินค้าที่มีผลกระทบภายนอกหากปล่อยให้กลไกตลาดทำงานอย่างเสรี จะทำให้อรรถประโยชน์ของสังคมต่ำกว่าที่ควรจะเป็น รัฐบาลจึงจำเป็นต้องเข้าไปแทรกแซงการผลิตของสินค้าทั้งสองประเภท เพื่อให้สังคมได้รับอรรถประโยชน์สูงสุด (Maximize Social Utilities)

การพนันเป็น “สินค้าที่มีภัยต่อสังคม” ประเภทหนึ่ง ซึ่งส่งผลในให้อรรถประโยชน์ของสังคมต่ำลง จึงเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะเข้ามาควบคุม การควบคุมเรื่องการเล่นพนัน ควรจะไม่ให้มีกิจกรรมนี้ภายในประเทศ แต่ในทางปฏิบัติไม่มีประเทศไหนสามารถขจัดการพนันให้หมดไปจากสังคมได้ หากแต่สามารถควบคุมการเล่นพนันให้อยู่ในกรอบ

การที่รัฐจะสามารถควบคุมผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสังคมได้นั้น เจ้าหน้าที่รัฐผู้ควบคุมกฎหมายจะต้องบังคับใช้กฎที่มีอยู่อย่างเข้มแข็ง แต่การบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ค่อนข้างจะย่อหย่อน เป็นปัญหาที่สำคัญสำหรับประเทศไทย ซึ่งหากตั้งใจจริงในการบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ ปัญหาที่ว่ายาก ตำรวจไทยก็สามารถแก้ได้ เช่น การปราบปรามยาเสพติด ที่ทำได้เห็นผลอย่างชัดเจน แต่การบังคับใช้กฎหมายกับนักพนันก็เป็นเรื่องยาก เพราะสังคมยังไม่รู้สึกว่าการพนันเป็นความผิดร้ายแรง บางคนสนับสนุนให้ทำอย่างถูกกฎหมาย ที่สำคัญที่สุดคือ การคงอยู่ของ “ธุรกิจใต้ดิน” เป็นผลมาจากการได้รับความคุ้มครองจากผู้รักษากฎหมาย ตราบใดที่ผู้รักษากฎหมายยังได้รับผลประโยชน์จากธุรกิจนอกกฎหมาย ธุรกิจนอกกฎหมายก็จะยังคงอยู่ในสังคมไทยต่อไป
การที่รัฐพยายามจะจัดการให้ “เศรษฐกิจการพนัน” กระทำอย่างถูกกฎหมาย ต้องคิดอย่างรอบคอบว่าจะมีวิธีการจัดการอย่างไร เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสังคม โดยเฉพาะกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และอีกส่วนที่มีความสำคัญ คือ การจัดสรรรายได้ของรัฐจำนวนมหาศาลที่เกิดจาก “เศรษฐกิจการพนัน”

เงินที่รัฐสามารถจัดเก็บได้ จากการนำ “เศรษฐกิจการพนัน” มาทำให้ถูกกฎหมาย อาจจะแยกได้เป็นสองส่วน ส่วนแรก คือ กำไรหรือภาษีที่จัดเก็บได้ จากธุรกิจประเภทนั้น และ ส่วนที่สอง คือ เงินหมุนเวียนและธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่จะเกิดขึ้น ซึ่งคาดว่าเงินทั้งสองส่วนจะเป็นเงินนับแสนล้านบาท หากนำทั้งโต๊ะบอลและบ่อนคาสิโน มาทำให้ถูกกฎหมาย เนื่องจากเม็ดเงินหมุนเวียนที่เล่นกันอยู่ใน “เศรษฐกิจการพนัน” มีจำนวนมากถึง 1.5 ล้านล้านบาท และหากคิดกำไรแล้วในแต่ละปีจะมีกำไรถึง 3.4 แสนล้านบาท
การนำเงินส่วนหนึ่งมาชดเชยให้กับสังคมน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี เพื่อลดผลกระทบทางสังคมที่เกิดจากการนำธุรกิจผิดกฎหมายมาทำให้ถูกกฎหมาย โดยพยายามจัดสรรเงินในส่วนนี้ไปสนับสนุน (Subsidy) การผลิต “สินค้าที่มีผลดีต่อสังคม”(การศึกษา การสาธารณสุข และการรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ) ซึ่งอาจจะแบ่งเงินออกเป็นสามส่วนด้วยกัน ส่วนแรกนำเงินไปพัฒนาด้านการศึกษา เพื่อยกระดับพื้นฐานทางด้านความคิดของเยาวชนในประเทศ ให้รับรู้ถึงผลกระทบของการเป็นทาสของ การพนัน ส่วนที่สองควรนำเงินไปสนับสนุนทางด้านสาธารณสุขของประเทศ ส่วนสุดท้ายนำไปจัดแบ่งให้กับข้าราชการตำรวจที่จะต้องรับผิดชอบในการดูแลสังคมที่เพิ่มขึ้น

เงินใน “เศรษฐกิจการพนัน” มีความเกี่ยวโยงถึงกันระหว่างนักการเมืองระดับชาติกับนักการเมืองท้องถิ่น และนำมาสู่การแสวงหาผลประโยชน์ในด้านอื่นๆ จนทำให้ “เศรษฐกิจการพนัน” มีการขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ การที่รัฐจะเข้ามาจัดการเป็นเรื่องที่ดี แต่จะต้องมีความโปร่งใส เพราะมีนักการเมืองในรัฐบาลอาจจะได้รับผลประโยชน์ บนความเสื่อมถอยของสังคมไทย…

ไม่มีความคิดเห็น: